นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนและผู้แทนของทรัสตีนี้ (“นโยบายฯ”) เป็นนโยบายของบริษัท ภิรัช รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด (“บริษัท” หรือ “เรา”) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ ซึ่งจัดทำขึ้นเนื่องจากเราคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความมุ่งมั่นที่จะดูแลความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงเราจะเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามนโยบายฯนี้ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”).

นโยบายฯ นี้ใช้ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะ

(1) บุคคลที่ถือหน่วยลงทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ (“BOFFICE”) (“ผู้ถือหน่วยลงทุน”)

(2) บุคคลที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมอบฉันทะให้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหน่วย (“ผู้รับมอบฉันทะ”)

(3) ผู้แทนนิติบุคคลของทรัสตีของ BOFFICE (“ผู้แทนของทรัสตี”)

1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวโยงกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดที่กำหนดโดย พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ

1.1 หากท่านเป็นผู้ถือหน่วยลงทุน ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านได้แก่ข้อมูลดังต่อไปนี้

1.2 หากท่านเป็นผู้รับมอบฉันทะ ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านได้แก่ข้อมูลดังต่อไปนี้

1.3 หากท่านเป็นผู้แทนของทรัสตี ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านได้แก่ข้อมูลดังต่อไปนี้

หากท่านมีความประสงค์จะร่วมงานเข้าทำสัญญาหรือก่อนิติสัมพันธ์ใดๆ กับเรา เรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้ง นี้หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่เรา เราอาจไม่สามารถดำเนินการใดๆ ตามที่ท่านร้องขอ หรือปฏิบัติหน้าที่ในสัญญาข้อตกลง หรือนิติสัมพันธ์นั้นๆ รวมทั้งไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายที่เราต้องปฏิบัติตาม

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นแก่เรา ท่านยืนยันว่าเจ้าของข้อมูลผู้นั้น ได้พิจารณานโยบายฯ นี้ และได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนตามนโยบายฯ นี้แล้ว โดยท่านต้องนำส่งหรือแสดงหลักฐานการให้ความยินยอมดังกล่าวแก่เรา ตามที่เราอาจร้องขอ

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เราจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้เป็นไปตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และตามวัตถุประสงค์เดิมในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านที่พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนดให้สามารถเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยได้เฉพาะเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านหากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้เราเก็บ และ/หรือ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป ท่านสามารถขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยติดต่อเรา หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ตามรายละเอียดที่ปรากฏในข้อ 8. ของนโยบายฯ นี้

2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้แก่บริษัทโดยตรง เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นซึ่ง อาจรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้

2.1 บุคคลที่เกี่ยวข้องของท่าน : เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น ผู้ประสานงาน ตัวแทน หรือบุคคลที่ท่านมีนิติสัมพันธ์ด้วย

2.2 นิติบุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องของท่าน : เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทหรือนิติบุคคลอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น ทรัสตีของ BOFFICE

2.3 แหล่งข้อมูลสาธารณะ : ช่องทางนี้รวมถึงหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงเว็บไซต์สาธารณะหรือ Social Media

3. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตาม นโยบายฯ นี้ ทั้งนี้ ไม่เกินระยะเวลาตามที่ระบุไว้ด้านล่าง อย่างไรก็ตาม เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตราบเท่าที่ (1) พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องจะอนุญาต (2) ท่านและบริษัทยังคงมีนิติสัมพันธ์ระหว่างกัน (3) บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (4) ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัท และ/หรือ (5) มีความจำเป็นภายใต้กรอบของกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลตามนโยบายฯ นี้

4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ หรือที่ ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือ กฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้องกำหนด

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก และ/หรือ หน่วยงานของรัฐดังต่อไปนี้

5.1 หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

5.2 บริษัทในเครือใดๆ

5.3 บุคคลภายนอกที่ให้บริการแก่เรา เช่น บริษัทผู้ให้บริการจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ผู้สอบบัญชีผู้ตรวจสอบภายใน ทีปรึกษากฎหมายที่ปรึกษาวิชาชีพต่างๆ

5.4 บุคคลที่ร่วมงานกับเรา เช่น ทรัสตี

5.5 บุคคลใดๆ ที่ทรัสตีของ BOFFICE จะก่อหรือได้ก่อนิติสัมพันธ์ด้วย เพื่อประโยชน์ของ BOFFICE

5.6 บุคคลทั่วไป และผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชันของเรา หรือที่เราเป็นผู้ควบคุม

6. สิทธิของท่าน

ท่านมีสิทธิตามที่ระบุใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ โดยสิทธิดังกล่าวอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธินั้นๆ กำหนดไว้ด้วย

6.1 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนา : ท่านมีสิทธิเข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้เก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยและขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

6.2 สิทธิในการขอรับและโอนข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่เราได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยตามที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือภายใต้ฐานสัญญา หรือภายใต้หลักเกณฑ์อื่นที่กฎหมายกำหนด

6.3 สิทธิในการคัดค้าน : ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่เราดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์สาธารณะ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ

6.4 สิทธิในการขอให้ลบ : ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนด้วยเหตุบางประการได้

6.5 สิทธิในการขอให้ระงับ : ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่เราตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือเมื่อเราไม่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป แต่ท่านขอให้เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้อง

6.6 สิทธิในการแก้ไข : ท่านมีสิทธิขอให้เราแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

6.7 สิทธิในการร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนกับคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัท หรือลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของเรามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

6.8 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม : ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ โดยจะเพิกถอนบางวัตถุประสงค์เท่านั้น หรือจะเพิกถอนทั้งหมดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่เรากำหนด ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

ท่านอาจใช้สิทธิเหล่านี้ได้โดยการติดต่อกับเรา หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราตามรายละเอียดในข้อ 8.

ในกรณีที่การเพิกถอนความยินยอมส่งผลกระทบต่อท่านในเรื่องใด เราจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น โดยหากท่านเพิกถอนความยินยอมในภายหลัง การเพิกถอนดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ

เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราคำนึงถึง และมุ่งมั่นที่จะดูแลความปลอดภัยและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราอาจปฏิเสธคำขอใช้สิทธิของท่านในกรณีที่ (1) บุคคลที่ยืนคำขอไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือไม่มีอำนาจในการยืนคำขอดังกล่าว (2) คำขอดังกล่าวไม่สมเหตุผล เช่น บุคคลที่ส่งคำขอไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้น อยู่ในความครอบครองของเรา (3) คำขอดังกล่าวเป็นคำขอฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำขอที่มีลักษณะเดียวกัน หรือมีเนื้อหาเดียวกันซ้ำๆ โดยไม่มีเหตุผลอันควร (4) บริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธคำขอของท่านตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือกฎหมายทีเกี่ยวข้องกำหนด

7. นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

บริษัท ได้เผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งกำหนดข้อมูลโดยทั่วไปเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลทุกประเภท และรายละเอียดอื่น ๆ เช่น การโอนข้อมูลไปต่างประเทศ คุกกี้ (Cookie) มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่ไม่เป็นการยกเลิก แทนที่ หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดใด ๆ ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยหากมีข้อความที่ขัดหรือแย้งกัน ให้ข้อกำหนดต่าง ๆ ในนโยบายฯนี้มีผล เนื่องจากเราได้ส่งมอบให้ท่านพิจารณาและเลือกที่จะให้ความยินยอมหรือไม่เป็นการเฉพาะ

โปรดพิจารณานโยบายความเป็นส่วนตัวของเราได้ที่ www.bofficereit.com

8. ติดต่อเรา

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายฯนี้ หรือกิจกรรมอื่นๆ ของบริษัท รวมถึงการใช้สิทธิที่ ระบุในข้อ 6. ของนโยบายฯนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท และเจ้าหน้าที่คุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดด้านล่าง

บริษัท ภิรัช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด

ถึง: ทีมนักลงทุนสัมพันธ์ / ทีม Compliance and Risk Management
ที่อยู่: อาคารสมัชชาวานิช2 (UBCII) ชั้น 7 เลขที่ 591 ซอยสุขุมวิท 33 ถนนสุขุมวิท แขวง
เบอร์ติดต่อ: 0-2261-0170
อีเมล: boffice.brrm@bhirajburi.co.th
Website: https://www.bofficereit.com/th/contact-us

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ถึง: เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่อยู่: อาคารสมัชชาวานิช2 (UBCII) ชั้น 7 เลขที่ 591 ซอยสุขุมวิท 33 ถนนสุขุมวิท แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เบอร์ติดต่อ: 0-2261-0170
อีเมล: boffice.brrm@bhirajburi.co.th

นโยบายฯ นี้ ถูกทบทวนและให้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565